Ethics Charter
- สร้างค่านิยมและความเชื่อใจแก่ลูกค้า
- มีศรัทธาที่ดีและทำธุรกิจด้วยความยุติธรรมต่อผู้ลงทุน
- ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของผู้บริหารและพนักงาน
- สร้างความสัมพันธ์แบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายกับบริษัทคู่ค้า
- ปกป้องสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ระบบนิเวศ
- ช่วยเหลือสังคมและประเทศ
- ปกป้องและเคารพสิทธิมนุษยชน
- การปฏิบัติด้านจริยธรรมและกฎหมาย
สร้างค่านิยมและความเชื่อใจแก่ลูกค้า
- 1. ตระหนักถึงความพึงพอใจของลูกค้า
– ราจะทำงานโดยให้ความสำคัญกับลูกค้า (customer-oriented) ด้วยการฟังและเคารพเสียงของลูกค้า
– ราจะช่วยให้บรรลุอุปสงค์ของลูกค้าอย่างกระตือรือร้น และให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม
- 2. สร้างค่านิยมของลูกค้า
– เราจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยม ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
– ผู้บริหารและพนักงานจะต้องพยายามเข้าใจสถานการณ์ของตลาดในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งต้องพัฒนาจิตใจบริการที่เคารพวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติของลูกค้า
- 3. การได้รับความเชื่อใจจากลูกค้า
– เราจะใส่ใจความปลอดภัยและสุขภาพของลูกค้าในการดำเนินการจัดการของเรา และไม่มอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและสุขภาพของลูกค้า
– เราจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมแก่ลูกค้า
มีศรัทธาที่ดีและทำธุรกิจด้วยความยุติธรรมต่อผู้ลงทุน
- 1. เพิ่มคุณค่าของผู้ถือหุ้น
– เราจะสร้างผลกำไรด้วยการตัดสินใจที่โปร่งใสและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพิ่มคุณค่าของผู้ถือหุ้นและองค์กรไปพร้อมๆ กัน
- 2. การให้ข้อมูลการลงทุนอย่างเป็นธรรม
– ราจะไม่ให้ข้อมูลที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือไม่ให้ข้อมูลเพียงด้านใดด้านหนึ่ง
– เราจะไม่ขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ หรือแนะนำให้ผู้อื่นขายโดยใช้ข้อมูลภายในที่ได้รับมาในขณะที่ทำงานอยู่ในบริษัท
- 3. คำนวณและให้ข้อมูลทางการเงินอย่างโปร่งใส
– เราจะดำเนินการให้ข้อมูลทางการเงินทั้งหมดตามบันทึกการทำธุรกรรมอย่างถูกต้อง ภายใต้กระบวนการและการควบคุมอย่างเหมาะสม
– เราจะทำรายงานทางการเงิน ตามมาตรฐานการบัญชีที่ยอมรับกันโดยทั่วไป
– เราจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการที่ถูกต้องและเพียงพอแก่นักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระภายใต้ความรับผิดชอบของตนเอง
ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของผู้บริหารและพนักงาน(Work Life Balance)
- 1. ส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน (Work Life Balance)
– เราจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริหารและพนักงานโดยการให้สวัสดิการช่วยเหลือเพื่อคงไว้ซึ่งชีวิตที่มีสเถียรภาพ
– เราจะช่วยสนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงานบรรลุวิสัยทัศน์ส่วนบุคคล และอนุญาตให้สามารถยืดหยุ่นในเรื่องของเวลา สถานที่ และกระบวนการในการทำงานได้
- 2. ให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง
– เราจะจัดสภาพแวดล้อมและระบบในการทำงานที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้
– เราจะสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้บริหารและพนักงาน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรที่ผู้บริหารและพนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้
- 3. การประเมินผลและให้ค่าตอบแทนอย่างเป็นธรม
– เรามีระบบการประเมินผลงานของผู้บริหารและพนักงานอย่างเป็นระบบและยุติธรรม ตามความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานของพวกเขา และจัดให้มีผลตอบแทนอย่างเหมาะสม
- 3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งสุขภาพ
– ผู้บริหารและพนักงานจะทำงานด้วยระบบวัฒนธรรมองค์กรแบบเปิด ผ่านการสื่อสารที่เปิดเผย (open communication)
– ผู้บริหารและพนักงานจะลดกำแพงระหว่างกันลง และทำให้กลายเป็นบรรยากาศแห่งความร่วมมือ
สร้างความสัมพันธ์แบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายกับบริษัทคู่ค้า
- 1. สร้างความเชื่อใจระหว่างกัน
– เราจะดำเนินธุรกิจอย่างยุติธรรมกับบริษัทคู่ค้าบนรากฐานแห่งความเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน
– เราจะปกป้องข้อมูลที่ได้รับมาจากการทำธุรกรรมกับบริษัทคู่ค้าอย่างเคร่งครัด ตามสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
– เราจะส่งเสริมให้บริษัทคู่ค้าปฏิบัติตามข้อบัญญัติและกฎหมายการแข่งขันทางการค้า (anti-competition related laws)
- 2. เติบโตไปด้วยกันกับบริษัทคู่ค้า
– เราจะให้ประโยชน์ต่อกันโดยการแบ่งปันข้อมูลผลสำเร็จกับบริษัทคู่ค้า
– เราจะให้ความร่วมมือและพูดคุยกันอย่างเปิดเผยกับบริษัทคู่ค้า เพื่อที่บริษัทคู่ค้าจะได้มอบผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูง
– เราจะทำธุรกิจอย่างมีเหตุผลและให้โอกาสอย่างเป็นธรรมแก่บริษัทคู่ค้า เพื่อที่พวกเขาจะได้เติบโตในฐานะบริษัทคู่ค้าในระยะยาว
- 3. สนับสนุนการพัฒนาของบริษัทคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง
– เราจะพยายามสร้างห่วงโซ่แห่งอุปทานที่มั่นคง โดยการให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิคและการเงินแก่บริษัทคู่ค้า
– เราจะพยายามเพิ่มศักยภาพของบริษัทคู่ค้าให้สามารถเติบโตไปด้วยกันในระแบบนิเวศองค์กรแห่งการพัฒนาอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ปกป้องสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ระบบนิเวศ
- 1. ดำเนินการด้วยระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
– เราจะดำเนินการด้วยระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ประเมินผลกระทบและความเสี่ยงจากกิจกรรมทางธุรกิจที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และจัดการวิเคราะห์ผลลัพธ์จากการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
– เราจะโน้มน้าวให้บริษัทคู่ค้าตระหนักว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นความรับผิดชอบพื้นฐานต่อสังคม และสนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าปฏิบัติตามข้อบัญญัติและกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
– เราจะสนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าผลิตสินค้าและบริการโดยยังคำนึงถึงสุขภาพของประชาชน ลดมลภาวะที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน
- 2. ปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
– เราจะพยายามปฏิบัติตามกฏหมายด้านสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆ กระบวนการทั้งในด้านการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์
– เราจะลดการปล่อยมลภาวะด้วยการเข้าสู่กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้เทคโนโลยีป้องกันมลภาวะอย่างเหมาะสม
- 3. การจัดการกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
– เราจะพยายามลดการใช้น้ำมันหรือวัตถุจากซากดึกดำบรรพ์ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงาน
– เราจะยกระดับการแข่งขันด้วยการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ
- 4. อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ
– เราจะพยายามฟื้นฟูระบบนิเวศและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและผลพลอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยเหลือสังคมและประเทศ
- 1. บทบาทและทัศนคติในฐานะพลเมืององค์กร
– เราจะเคารพกฎหมายและกฎระเบียบท้องถิ่น ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และจะพยายามพัฒนาสังคมและประเทศไปด้วยกัน
– เราจะให้ความร่วมมือในการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องของกิจกรรมทางธุรกิจที่อาจส่งผลต่อสังคมและประเทศ
– เราจะสนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าเข้าร่วมการดำเนินการทางธุรกิจที่ช่วยพัฒนาสังคมและประเทศ
- 2. ช่วยในการพัฒนาสังคมและประเทศ
– เราจะทำคุณประโยชน์ให้แก่ชุมชน โดยการสร้างและคงไว้ซึ่งงานที่มั่นคง และจ่ายภาษีตรงตามเวลา
– เราจะเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างกระตือรือร้น เช่น งานจิตอาสา งานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และริเริ่มกิจกรรมที่ไม่หวังผลกำไรครอบคลุมหลากหลายด้าน อาทิเช่น วัฒนธรรม ศิลปะ กีฬา และการศึกษา
– เราจะให้การสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ปกป้องและเคารพสิทธิมนุษยชน
- 1. เคารพสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากล
– เราจะเคารพสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หลักปฏิบัติของสหประชาชาติว่าด้วยการดำเนินธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) และแนวปฏิบัติ OECD สำหรับบรรษัทข้ามชาติ
– เราจะจัดทำระบบและนโยบายที่ชัดเจน เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและพยายามไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในกิจกรรมทางธุรกิจของเรา
– เราจะสนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าปฏิบัติตามบทบัญญัติและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของพวกเขา และปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเป็นธรรม
- 2. การตรวจสอบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธินุษยชน
– เราจะพิจารณาตามดุลยพินิจในกิจกรรมทางธุรกิจที่อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรืออาจก่อให้เกิดการร้องเรียน
– เมื่อตรวจสอบพบว่าในกิจกรรมทางธุรกิจของเรามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือก่อให้เกิดการร้องเรียน เราจะพยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
– เราจะแจ้งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบเกี่ยวกับกิจกรรมและผลลัพธ์จากการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน
- 3. การคุ้มครองผู้บริหารและพนักงาน
– เราจะไม่แสดงคำพูดหรือการกระทำที่เป็นการคุกคามผู้อื่น หรือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้อื่น เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ
– เราจะเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้บริหารและพนักงาน โดยไม่ว่าร้ายหรือหมิ่นประมาทผู้อื่น และจะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริหารและพนักงาน
– ไม่บังคับให้ทำงานโดยไม่เต็มใจ ด้วยการบังคับทางด้านร่างกายหรือจิตใจ
– เราจะปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานท้องถิ่นและมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับอายุในการทำงานและเงื่อนไขแรงงานของผู้เยาว์
– เราจะปฏิบัติตามกฎรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินการอย่างเหมาะสมหากพบปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
- 4. ความเคารพและความเท่าเทียมกัน
– เราจะไม่เหยียดเชื้อชาติ สัญชาติ เพศ อายุ วุฒิการศึกษา ศาสนา ถิ่นกำเนิด ความพิการ สถานภาพสมรส และรสนิยมทางเพศ
– เราจะให้โอกาสในการจ้างงานอย่างเท่าเทียม สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติและความสามารถเหมาะสม
– เราจะคงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรม
- 5. รับประกันการจ้างงานที่มีมนุษยธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย
– เราจะเตรียมความพร้อมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนของผู้บริหารและพนักงาน ผ่านขั้นตอนการรับเรื่องร้องเรียนของบริษัท
– เราจะเสนอการจ้างงานที่เหมาะสม เช่น การกำหนดชั่วโมงในการทำงานอย่างเหมาะสมเพื่อให้พนักงานสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีเกียรติ
- 6. พยายามเคารพสิทธิมนุษยชนของชุมชน
– เราจะพยายามรับฟังความคิดเห็นของชุมชน และแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของพวกเราในชุมชน
การปฏิบัติด้านจริยธรรมและกฎหมาย
- 1. การปฏิบัติด้านจริยธรรมและกฎหมาย
– เงินและของมีค่าหมายถึง เงิน (เงินสด บัตรกำนัล บัตรสมาชิก) และสิ่งของที่เป็นประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ
– ห้ามผู้ใดขอหรือรับเงินหรือของมีค่าจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ยกเว้นของขวัญที่มีโลโก้ของบริษัทผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือของขวัญที่มอบให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งจัดโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
– หากเงินหรือของมีค่าอื่นใดได้รับมาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือรับมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นนี้ ควรส่งคืนเงินหรือของมีค่านั้น หากไม่สามารถส่งคืนได้ให้แจ้งกับฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร
- 2. กิจกรรมนันทนาการ
– กิจกรรมนันทนาการหมายถึง ความหลากหลายของกิจกรรม ดำเนินการโดยมีจุดประสงค์เพื่อเครือข่ายทางธุรกิจและการประชุมทางธุรกิจ รวมถึงการรับประธานอาหาร งานเลี้ยงสังสรรค์ การเล่นกอล์ฟ การแสดงและการเล่นเกมด้วย
– ไม่ควรจัดหรือรับกิจกรรมนันทนาการที่มากเกินกว่าระดับปกติทั่วไป หากกิจกรรมนันทนาการที่เกินกว่าระดับปกติถูกจัดหรือรับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้แจ้งกับฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร ยกเว้นกิจกรรมนันทนาการที่สถานบริการห้ามจัดในทุกกรณี
– การจัดกิจกรรมนันทนาการที่มากเกินกว่าระดับปกติทั่วไปโดยต้องใช้งบประมาณของบริษัท หรือต้องเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการที่มากเกินกว่าระดับปกติทั่วไป จำเป็นที่จะต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้าแผนกก่อน
- 3. การอำนวยความสะดวก
– การอำนวยความสะดวกหมายถึง การให้หรือได้รับประโยชน์ใดๆ เช่น การคมนาคม ที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว และการสนับสนุนทางกิจกรรม
– ห้ามให้หรือรับการอำนวยความสะดวกที่มากเกินกว่าระดับปกติไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคมนาคม หรือด้านที่อยู่อาศัย ยกเว้นเป็นการอำนวยความสะดวกทั่วไปให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
– ในกรณีที่จัดหรือรับการอำนวยความสะดวกที่มากเกินกว่าระดับปกติมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้แจ้งกับฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์
- 4. เงินแสดงความยินดีและเงินแสดงความเสียใจ
– พนักงานห้ามแจ้งงานมงคลหรืองานอวมงคลของตนหรือเพื่อนร่วมงานให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบ การแจ้งผ่านบุคคลที่สามให้ถือว่าพนักงานเป็นผู้แจ้งด้วยตนเอง
– ข่าวงานมงคลหรืองานอวมงคลให้แจ้งบนกระดานประชาสัมพันธ์ ห้ามใช้อีเมล์ของบริษัทหรือส่งบัตรเชิญ (บัตรเชิญร่วมงานแต่งงาน บัตรเชิญร่วมงานอวมงคล) ยกเว้นการแจ้งเหตุเกี่ยวกับญาติของพนักงาน ปู่ย่าตายายของคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรธิดา
– เงินแสดงความยินดีหรือแสดงความเสียใจที่มอบให้แก่พนักงานไม่ควรเกิน 50,000 วอน ตามธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมเกาหลี
– เงินแสดงความยินดีหรือแสดงความเสียใจที่ได้รับมาจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม ให้นำเงินนั้นส่งคืนแก่ผู้ให้หรือส่งต่อให้ฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร
– oมื่อมีการร้องขอจากฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร ให้ผู้บริหารและพนักงานส่งหลักฐานการได้รับและการคืนเงินแสดงความยินดีหรือแสดงความเสียใจที่คืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
– เมื่อมีการร้องขอจากฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร ให้ผู้บริหารและพนักงานส่งหลักฐานการได้รับและการคืนเงินแสดงความยินดีหรือแสดงความเสียใจที่คืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
– ผู้บริหารและพนักงานไม่จัดงานแต่งงานหรูหราในสถานที่หรูหรา เช่น โรงแรมห้าดาว
- 5. การร้องขอให้มีการพิจารณาเป็นพิเศษเกี่ยวกับงาน
– ไม่เรียกร้องให้มีการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง การแต่งตั้ง หรือโอกาสไปประจำการที่ต่างประเทศให้กับเพื่อนหรือคนรู้จักทั้งภายในและภายนอกบริษัท
– ไม่ร้องขอการพิจารณาที่เกี่ยวกับงานให้กับญาติหรือเพื่อน เช่น การว่าจ้าง การเลื่อนตำแหน่ง หรือการมอบหมายงาน
- 6. ธุรกรรมทางการเงิน
– ไม่ให้การสนับสนุนธุรกรรมทางการเงินแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น การให้กู้ยืมเงิน การค้ำประกัน หรือการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
– หากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกกรรมทางการเงินของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้แจ้งกับฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร
- 7. การสนับสนุนการดำเนินงาน
– ไม่ควรรับเงินสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หากเงินหรือของมีค่าอื่นใดนั้นเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมใดๆ ที่จัดโดยฝ่ายหรือเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรของบริษัท
– การอำนวยความสะดวกใดๆ ที่ได้รับมาจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็น การคมนาคม สถานที่ หรือบริการให้ถือว่าเป็นการได้รับเงินหรือของมีค่า
– หากได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้แจ้งกับฝ่ายกำกับกฎหมายและกฎระเบียบองค์กร
- 8. การใช้ทรัพยากรงบประมาณบริษัทอย่างไม่เหมาะสม
– ไม่ควรใช้งบประมาณของบริษัท(ค่าใช้จ่ายในการประชุม ค่าใช้จ่ายในการโปรโมทธุรกิจ) เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล
– โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายของบริษัทควรจ่ายด้วยบัตรเครดิตของบริษัท ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งบประมาณและนโยบายที่กฎหมายกำหนด
- 9. การปกป้องทรัพย์สินและข้อมูล
– พนักงานต้องปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับและข้อมูลที่สำคัญของบริษัทอย่างเคร่งครัด
– พนักงานควรบอกข้อมูลสำคัญให้กับบุคคลที่ต้องรับทราบเพื่อใช้สำหรับการปฏิบัติงานทันที
– พนักงานไม่ควรสร้างหรือเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ
– ห้ามพนักงานใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกใดของบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
- 10. การปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
– พนักงานต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในระดับท้องถิ่นและในระดับสากล และไม่ประพฤติพฤติกรรมจำกัดการแข่งขันทางการค้า เช่น การสมรู้ร่วมคิดกับคู่แข่งในเรื่องเกี่ยวกับการผลิต ราคา การประมูล หรือการแบ่งส่วนตลาด
– ไม่เรียกร้องค่าตอบแทน หรือร้องขอในเรื่องที่ไม่เหมาะสมแก่ลูกค้าหรือบริษัทคู่ค้าโดยใช้ตำแหน่งในหน้าที่การงาน
– พนักงานจะต้องเคารพสิทธิและทรัพย์สินของผู้อื่น รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา และไม่พยายามทำธุรกรรมหรือสร้างผลกำไรโดยการละเมิดสิทธิดังกล่าว
– ควรใช้ข้อมูลของบริษัทอื่นที่ได้รับมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงข้อมูลของคู่แข่งทางธุรกิจด้วย